November 25, 2023
พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) คือ พลังงานทดแทนชนิดหนึ่งที่สามารถผลิตได้จาการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ที่อยู่ในรูปของแสงแดด ซึ่งให้ทั้งพลังงานแสงและพลังงานความร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ถือเป็นพลังงานหมุนเวียนสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษหรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังเป็นแหล่งพลังงานที่มีศักยภาพสูง ไม่มีวันหมด สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
พลังงานทดแทน หมายถึง พลังงานที่ใช้ทดแทนเชื้อเพลิงประเภทน้ำมัน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักที่ทั่วโลกนิยมใช้ในปัจจุบัน ทั้งนี้ พลังงานทดแทนแบ่งได้เป็น 2 ประเภทตามแหล่งที่มาของพลังงาน ได้แก่
1. พลังงานทางเลือก (Alternative Energy)
คือ พลังงานที่ได้จากแหล่งฟอสซิลอื่น ที่ไม่ใช่น้ำมัน ได้แก่ ถ่านหิน ก๊ซธรรมชาติ หรือยูเรเนียม ซึ่งมีแต่ใช้แล้วจะหมดไป
2. พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy)
คือ พลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เนื่องจากเป็นพลังงานที่ได้จากแหล่งธรรมชาติ โดยพลังงานหมุนเวียนนี้เป็นพลังงานสะอาดไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างประเภทพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy), พลังน้ำ (Hydropower), พลังงานลม (Wind Energy),พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) และพลังงานชีวมวล (Biomass) เป็นต้น
ด้วยความก้าวหน้าทางทคโนโลยี องค์กรชั้นนำได้ให้ความสนใจการนำพลังงานสะอาดหรือพลังงานทดแทนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ
เพื่อเปลี่ยนวิถีการใช้พลังงานแบบเดิมจากการเผาผลาญชื้อเพลิงฟอสชิล มาเป็นพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่จะขับเคลื่อนโลก
และสังคมการเดินทางอย่างยั่งยืนในอนาคต
#ECOPIA #ราคายาง ECOPIA #ร้านเปลี่ยนยาง ECOPIA #รุ่นยาง ECOPIA #ECOPIA ที่ค็อกพิท
ในปัจจุบันภาวะโลกร้อนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ องค์กรชั้นนำเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง หันมาใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น ยางประหยัดน้ำมัน ECOPIA ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ที่ต้องการประหยัดน้ำมันในขณะเดียวกันยังใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมเพราะ ยาง ECOPIA มีความต้านทานต่อการหมุนต่ำนั้นหมายความว่า จะสามารถช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองได้และยาง ECOPIA ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งนั่นหมายความว่ายาง ECOPIA เป็นส่วนหนึ่งของยางรักษ์โลก
โดยยางประหยัดน้ำมัน ECOPIA ที่ ค็อกพิท แนะนำ นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 รุ่น มาดูกันว่าแต่ละรุ่นนั้น เหมาะสำหรับการใช้งานและรถแบบใดกันบ้าง
• รุ่นที่ 1 ECOPIA EP150
ยาง ECOPIA EP150 เป็นมาตรฐานใหม่ เพื่อโลก เพื่อเรายาง ECOPIA EP150 เป็นยางที่ได้รับเลือกให้เป็นยางมาตรฐานประกอบรถยนต์ชั้นนำยาง ECOPIA EP150 ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงที่ช่วยลดความต้านทานการหมุนของยาง และช่วยประหยัดน้ำมัน พร้อมทั้งยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
กลุ่มรถยนต์ | ตัวอย่างยี่ห้อ/รุ่นรถ |
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภทขนาดใหญ่ | Toyota Camry, Honda Accord |
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภทขนาดกลาง | Toyota Toyota Camry, Honda Accord |
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภทขนาดเล็ก | Nissan March, Toyota Yaris, Toyota Vios, Honda Jazz, Honda City |
• รุ่นที่ 2 ECOPIA EP300
ยาง ECOPIA EP300 ได้ถูกออกแบบมาให้อึดยิ่งขึ้น ยึดเกาะถนนได้ดียิ่งกว่า เป็นยางที่พัฒนาขึ้นในด้านการประหยัดน้ำมัน นุ่มเงียบขับขี่ได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่ต้องกลัวเสียการทรงตัวเพราะยาง ECOPIA EP300 ถูกออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะบนถนนเปียกที่ดียิ่งขึ้นแม้ในขณะขับขี่ เข้าโค้งก็สามารถทำให้รู้สึกถึงสัมผัสที่นุ่มสบาย และแน่นอนว่ายาง ECOPIA EP300 ยังมาพร้อมคุณสมบัติอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเดิมอีกด้วย
กลุ่มรถยนต์ | ตัวอย่างยี่ห้อ/รุ่นรถ |
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภทขนาดใหญ่ | Toyota Camry, Honda Accord |
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภทขนาดกลาง | Toyota Camry, Honda Accord |
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภทขนาดเล็ก | Nissan March, Toyota Yaris, Toyota Vios, Honda Jazz, Honda City |
• รุ่นที่ 3 ECOPIA H/L001
ยาง ECOPIA H/L001 ได้ถูกยกระดับมาตรฐานการขับขี่ ตอบทุกความต้องการของรถอเนกประสงค์ของคุณที่เพียบพร้อมไปด้วยประสิทธิภาพรอบด้าน ทั้งความสามารถในการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมและยาง ECOPIA H/L001 มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ทั้งความสามารถในการช่วยประหยัดน้ำมันยาง ECOPIA H/L001 มีครบทุกความต้องการของคุณ
กลุ่มรถยนต์ | ตัวอย่างยี่ห้อ/รุ่นรถ |
รถอเนกประสงค์ CUV (Crossover Utility Vehicles) | Toyota C-HR |
รถอเนกประสงค์ PPV (Pick-up Passenger Vehicles) | Toyota Fortuner, Mitsubishi Pajero Sport, Isuzu MU-X, Ford Everest, Chevrolet Trailblazer |
รถอเนกประสงค์ MPV (Multi Purpose Vehicles) | Toyota Alphard |
รถอเนกประสงค์ SUV (Sport Utility Vehicles) | Honda CR-V, Mazda CX-5, Nissan X-Trail, MG GS, Chevrolet Captiva |
อาการเบรกเฟดต้นเหตุหลักๆ แล้วเกิดจากการใช้เบรกหนักเกินกว่าที่ระบบจะรับไหว จนทำให้เกิดความร้อนสะสมในระบบเบรก จนขาดความสมดุลระหว่างการสร้างแรงเสียดทาน และการระบายความร้อนไม่เหมาะสม เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ผ้าเบรค และน้ำมันเบรกให้เหมาะสมกับการใช้งานก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาอาการเบรกเฟดได้ และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ผู้ขับขี่อย่าลืมหมั่นตรวจเช็คระบบเบรกอยู่เสมอ และควรตรวจสอบทุกครั้ง เมื่อรถมีการใช้งานหนัก และการขับขี่รถด้วยความเร็วสูง เพราะเมื่อเราขับรถ เบรกเท่านั้นคือสิ่งเดียวที่จะหยุดรถของคุณได้ สามารถติดตาม อ่านต่อได้ที่บทความ “อาการเบรกเฟด (Fade) เกิดจากสาเหตุอะไร ?”
เพราะยางรถยนต์ ถือว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับรถยนต์ของคุณ ควรดูแลให้สภาพดีอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ถนนและคนที่คุณรัก เพื่อให้แน่ใจว่ายางรถยนต์ของคุณได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง แวะมาที่ค็อกพิท เรามีเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมช่างผู้ชำนาญงานที่จะช่วยดูแลตรวจเช็คความปลอดภัยเบื้องต้น พร้อมตรวจเช็คครอบคลุมชิ้นส่วนและอะไหล่สำคัญ ที่จะทำให้ผู้ใช้บริการอุ่นใจ และมั่นใจทุกครั้งเมื่อนำรถมาเข้ารับบริการซึ่งเราจะให้บริการด้วยเวลาที่เหมาะสมจากบริการที่รวดเร็ว ราคาที่เหมาะสม และคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้มาใช้บริการ
#ECOPIA #ราคายาง ECOPIA #ร้านเปลี่ยนยาง ECOPIA #รุ่นยาง ECOPIA #ECOPIA ที่ค็อกพิท
ค้นหาศูนย์บริการใกล้บ้าน https://www.cockpit.co.th/stores
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แบบคนกันเองได้ที่ Call center 1369
#คุ้มครบไวอุ่นใจที่ค็อกพิท
"คุ้มครบไว อุ่นใจที่ค็อกพิท"
Copyright © 2024 Bridgestone Sales (Thailand) Co.,Ltd. All Right Reserved.