เกจวัดลมยางมีกี่แบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร

    สำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังจะซื้อมาติดรถไว้สักอัน แต่ไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี มาดูกับว่าอุปกรณ์ตรวจเช็คลมยางหรือเกจวัดลมยางในแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับรถของคุณ

    1. เกจวัดลมยางแบบแท่ง
หรือที่เรียกชื่อว่าที่วัดลมยางแบบปากกา โดยลักษณะของที่วัดลมยางแบบนี้จะเป็นแท่งเล็กๆทรงกระบอก โดยมีปลายด้านหนึ่งเป็นเป็นหัววัดลมกลมๆ ส่วนอีกด้านหนึ่งจะมีแถบแสดงค่าความดันลมยาง

วิธีการใช้งาน : ให้นำหัวด้านกลมๆ จ่อเข้ากับจุกเติมลมล้อรถ (ทำมุมให้พอดีเพื่อไม่ให้มีลมรั่วซึมออกมาขณะกดลงไป) กดให้แน่นค้างไว้ประมาณ 1-2 วินาที จากนั้นแถบแสดงค่าความดันลมยางจะเด้งออกมาตามปริมาณลมยางที่มีในล้อรถขณะนั้น

ข้อดี : มีขนาดกระทัดรัดสามารถพกพาได้สะดวก อ่านค่าได้ค่อนข้างแม่นยำ ราคาไม่แพงมาก

ข้อเสีย : สามารถวัดค่าได้น้อย โดยค่าสูงสุดที่วัดได้จะอยู่ที่เพียงประมาณ 40-50 PSI เท่านั้น

    2. เกจวัดลมยางแบบเข็ม
เกจวัดลมยางชนิดขี้เป็นที่นิยมค่อนข้างมากและมักพบเห็นได้ทั่วไปตามศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ โดยลักษณะของที่วัดลมยางแบบเข็มจะมีหน้าปัดทรงกลมมีเข็มอยู่ภายในเพื่อแสดงค่าลมยางโดยอีกฝั่งจะเป็นหัวทรงกลมเอาไว้จ่อเข้าจุกเติมลมล้อรถ

วิธีการใช้งาน : ให้นำหัวด้านกลมกดเข้าไปที่จุกเติมลมบนล้อรถยนต์เพียงแค่ 1 วินาทีให้มีเสียงฟี่ออกมาเบาๆ จากนั้นเลขความดันลมยางในขณะนั้นจะปรากฏขึ้นบนหน้าปัด

ข้อดี : สามารถวัดความดันลมได้ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ มอเตอร์ไซค์ หรือจักรยาน อ่านค่าได้เร็ว ตรวจหาค่าได้ง่าย ซึ่งในบางรุ่นสามารถเติมลมยางได้ในตัว

ข้อเสีย : มีความแม่นยำน้อยกว่าที่วัดลมยางแบบดิจิทัล และมีขนาดใหญ่กว่าที่วัดลมยางแบบแท่ง

    3. เกจวัดลมยางแบบดิจิตอล
เกจวัดลมยางแบบดิจิตอลถูกพัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่และเพื่อความแม่นยำในการตรวจค่าลมยางมากยิ่งขึ้น

วิธีการใช้งาน : คล้ายกับที่วัดลมยางแบบเข็ม ต่างกันแค่เพียงที่วัดลมยางแบบบดิจิตอลสามารถอ่านค่าออกมาเป็นตัวเลขดิจิตอลเท่านั้น

ข้อดี : มีความแม่นยำมากกว่าแบบเข็ม เป็นที่วัดลมยางแบบไร้สาย โดยการนำจุกลมยางแบบเซ็นเซอร์ไปติดที่จุกล้อรถของแต่ละล้อ โดยแต่ละจุกจะมีตัวอักษรระบุไว้ว่าต้องนำไปติดที่ล้อไหน ซึ่งจุกลมยางเซ็นเซอร์นี้จะรายงานปริมาณลมยางตลอดเวลาเป็นรูปแบบดิจิตอลขึ้นบนหน้าจอแสดงผล ทำให้ไม่ต้องคอยเช็คลมยาง เพราะสามารถดูจากค่าที่อัปเดตได้ตลอดเวลา

ข้อเสีย : ราคาที่ค่อนข้างสูงและยังต้องคอยต้องตรวจสอบแบตเตอรี่และเซนเซอร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ประสิทธิภาพการใช้งานยังคงดีอยู่อย่างต่อเนื่อง
#ยางรถยนต์ขอบ15 นิ้ว #ยางรถยนต์ขอบ15 #เปลี่ยนยางรถยนต์ขอบ15 #ราคายางรถยนต์ขอบ15 #รุ่นยางรถยนต์ขอบ15 #ร้านยางรถยนต์ขอบ15

   นอกจากเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรูปแบบของเกจวัดลมยางแล้ว วันนี้เรายังมาแนะนำ ยางรถยนต์ขอบ15 นิ้ว จากแบรนด์ BRIDGESTONE รุ่นยอดนิยมที่ผู้ใช้รถมีการค้นหามากที่สุดในตอนนี้ มาฝากผู้ขับขี่ที่กำลังกำลังยางรถยนต์ขอบ15 นิ้ว ให้กับรถคู่ใจ มาดูกันว่ารุ่นที่ฮอตที่สุดในตอนนี้ มีรุ่นไหนบ้าง

รุ่นยาง BRIDGESTONE ยอดนิยม ขนาดยางรถยนต์ขอบ15 นิ้ว