ทำไมถึงต้องตรวจสภาพรถ

June 1, 2024


   รถยนต์ประเภทต่าง ๆ เมื่ออายุการใช้งานมากขึ้น สมรรถนะในการขับขี่ก็ย่อมลดลง การตรวจสภาพรถจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เราควรนำรถเข้ารับการตรวจสภาพรถเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนดเพื่อตรวจสอบความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้


ทำไมถึงต้องตรวจสภาพรถ


   1. เพื่อความปลอดภัย
การตรวจสภาพรถ เช็คระยะ เป็นการช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้กับเครื่องยนต์รวมถึงส่วนต่าง ๆ ของรถ และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น หากผู้ขับขี่ตรวจสภาพรถตามระยะ เมื่อพบความผิดปกติ ชำรุดหรือเสื่อมสภาพจะได้ซ่อมแซมได้ทันท่วงที และช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างความปลอดภัย


   2. ยืดอายุการใช้งาน
การตรวจสภาพรถ เป็นประจำก็เหมือนเป็นการคอยดูแลรถยนต์ เครื่องยนต์ และส่วนประกอบต่าง ๆ ของรถให้ยังคงสภาพการใช้งานได้ดี เมื่อไม่มีสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถ ก็สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น


   3. เพื่อต่อภาษีรถยนต์
สำหรับรถที่มีอายุการใช้งานเป็นระยะเวลาครบตามที่ พรบ.กำหนด ควรนำรถเข้ารับการตรวจสภาพก่อนต่อภาษีรถยนต์ เพื่อเป็นการรับรองว่ารถยนต์หรือรถจักรยานยนต์นั้น ๆ ยังมีสภาพที่พร้อมใช้งานตามระเบียบข้อบังคับของกรมการขนส่ง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนและเพื่อสร้างความปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยผู้ขับขี่จะต้องนำใบรับรองการตรวจสภาพรถไปยื่นเป็นหลักฐานเพื่อทำการต่อภาษีประจำปีทุกครั้ง

ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ได้ระบุไว้ว่า“รถที่จะนำมาใช้ในการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 หรือนำมาจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 จะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับรถ ผู้โดยสารไปกับรถคันนั้น ผู้ขับขี่รถคันอื่นๆ คนเดินถนน รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดพระราชบัญญัติ รถที่เข้าเกณฑ์การตรวจสภาพก่อนเสียภาษีประจำปีจึงสรุปรายการได้ ดังนี้

- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป

- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป

- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป

-รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปี ขึ้นไป

การนับอายุการใช้งานของยานพาหนะ จะเป็นการนับโดยอ้างอิงจากการจดทะเบียน โดยให้นับอายุเริ่มต้นที่วันจดทะเบียนเป็นครั้งแรก จนถึงวันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์จดทะเบียนเมื่อปีพ.ศ. 2560 ต้องเริ่มตรวจสภาพรถยนต์ครั้งแรกในปี 2567 

สถานที่ที่สามารถไปตรวจสภาพรถได้มีอยู่ 2 แห่งนั่นก็คือ

1. สถานตรวจสภาพรถเอกชน หรือ ตรอ. เป็นสถานที่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมขนส่งให้มีความสามารถในการตรวจสอบสภาพรถก่อนจะนำไปยื่นต่อภาษี ซึ่งผู้ขับขี่สามารถนำรถประเภทต่าง ๆ เข้าไปตรวจสภาพได้ในกรณีที่ไม่สะดวกนำรถไปตรวจตามกรมขนส่งประจำจังหวัด

2. กรมการขนส่งทางบก สำหรับรถบางประเภทที่ไม่สามารถนำมาตรวจสภาพกับตรอ.ได้แต่ต้องนำไปตรวจที่ กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
#ตรวจสภาพรถ #ตรวจสภาพรถยนต์ #ตรวจสภาพรถที่ค็อกพิท #ตรวจสภาพรถราคา #ศูนย์ตรวจสภาพรถ





เกร็ดความรู้ เพิ่มเติม 


  ถึงแม้ว่าคุณจะนำรถเข้าศูนย์เช็คระยะ ตรวจสภาพรถ อย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าหากคุณต้องเดินทางไกลถึงแม้ยังไม่ถึงเวลาเข้าศูนย์เพื่อตรวจสภาพรถ แต่คุณสามารถทำการตรวจสภาพรถ เบื้องต้นด้วยตัวเองอีกครั้ง เพื่อตรวจสภาพรถ ให้แน่ใจว่ารถของคุณพร้อมใช้งาน เพื่อความปลอดภัยก่อนออกเดินทางไกล ซึ่งคุณควรทำการตรวจสภาพรถ เบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ง่ายๆ เพียงทำตามขั้นตอนตรวจสภาพรถ ดังต่อไปนี้ สามารถติดตามอ่านต่อได้ที่บทความ " 5 วิธีเช็คสภาพรถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเอง ก่อนเดินทางไกล”



แวะมาเช็คระยะกับเรา ที่ ค็อกพิท (Cockpit) ปลอดภัยอุ่นใจทุกการเดินทาง ‘คุ้ม ครบ ไว อุ่นใจ ที่ค็อกพิท’


  ที่ ค็อกพิท (Cockpit) เป็นศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร มีเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมช่างผู้ชำนาญงาน ที่จะช่วยดูแล ตรวจสภาพรถ เช็คระยะ ความปลอดภัย เบื้องต้น พร้อมตรวจสภาพรถ ที่ครอบคลุมชิ้นส่วนและอะไหล่สำคัญ ที่จะทำให้ผู้ใช้บริการอุ่นใจ และมั่นใจทุกครั้งเมื่อนำรถมาเข้ารับบริการตรวจสภาพรถ ซึ่งเราจะให้บริการด้วยเวลาที่เหมาะสมจากบริการที่รวดเร็ว ราคาที่เหมาะสม และคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้มาใช้บริการ
#ตรวจสภาพรถ #ตรวจสภาพรถยนต์ #ตรวจสภาพรถที่ค็อกพิท #ตรวจสภาพรถราคา #ศูนย์ตรวจสภาพรถ


ค้นหาศูนย์บริการใกล้บ้าน https://www.cockpit.co.th/stores
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แบบคนกันเองได้ที่ Call center 1369
#คุ้มครบไวอุ่นใจที่ค็อกพิท







Reference
จะต่อภาษีรถยนต์ต้องรู้! ตรวจสภาพรถสำคัญอย่างไร
URL :
https://www.bridgestone.co.th/th/tire-clinic/drivers-essential/vehicle-checkup

Share