January 2, 2022
ยางรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่มีหน้าที่คอยรับน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกและคอยลดแรงกระแทกการสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ซึ่งยางรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนทิศทางการขับขี่และเป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนหรือหยุดรถและยางรถยนต์เป็นชิ้นส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนน เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่ควรดูแลยางรถยนต์และตรวจเช็คลมยางหรือเติมลมยางเป็นประจำทุกเดือน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้
ถ้าหากรถยนต์ของคุณนั้น มีแรงดันลมยางที่อ่อนหรือเติมลมยางแข็งเกินไป ก็อาจจะส่งผลให้ยางรถยนต์ของคุณสึกหรอหรือเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรได้และยังเพิ่มความเสี่ยงที่ยางรถยนต์ของคุณอาจจะยางแตกหรือยางรั่วได้ และถ้าคุณชอบเติมลมยางที่แข็งเกินไปนั้นยังอาจส่งผลให้รถของคุณมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง แถมยังทำให้ยางรถยนต์สึกหรอไวด้วยเช่นกัน และยางรถยนต์จะไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกจากถนนได้ดีเท่าที่ควร เพราะยางรถยนต์ที่เติมลมยางมากเกินไปนั้นมีการสึกหรอของหน้ายางไม่สม่ำเสมอ และส่วนการปล่อยให้ลมยางอ่อนเกินไปไม่ค่อยเติมลมยางก็จะทำให้การขับเคลื่อนรถของคุณมีการตอบสนองช้าและยังทำให้รถของคุณกินน้ำมันกว่าปกติอีกด้วย แรงดันลมยางที่อ่อนไปก็จะส่งผลให้บริเวณไหล่ยางรถยนต์เกิดการสึกหรอก่อนเวลาอันควรอีกด้วย และนี้คือผลกระทบของการเติมลมยางน้อยเกินไปหรือเติมลมยางมากเกินไป
• เติมลมยางน้อยเกินไปหรือปล่อยให้แรงดันลมยางน้อยเกินไป
สำหรับยางรถยนต์ที่ถูกเติมลมยางน้อยเกินไปหรือปล่อยให้รถยนต์ของคุณมีแรงดันลมยางน้อยเกินไป คุณอาจพบว่าในการขับขี่ขณะลมยางน้อยเกินไปนั้นอาจทำให้รถของคุณดูเหมือนตอบสนองช้าหรือเฉื่อยเมื่อเลี้ยวเข้าโค้ง ซึ่งการเติมลมยางน้อยเกินไปนั้นยังส่งผลทำให้ยางรถยนต์สามารถบิดหรือโค้งงอได้จนทำให้ภายในยางรถยนต์เกิดความร้อนและสะสมความร้อนไว้ภายในยางรถยนต์ ซึ่งหมายความว่ารถยนต์ของคุณจำเป็นต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อรักษาความเร็วให้คงที่และทำให้การประหยัดเชื้อเพลิงลดลง ยางรถยนต์ที่เติมลมยางต่ำเกินไปจะทำให้อายุของดอกยางนั้นลดลงทำให้อายุการใช้งานของยางรถยนต์ลดลงไปด้วย ซึ่งทำให้คุณต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ไวกว่าการเติมลมยางเหมาะสม
• เติมลมยางมากเกินไป
รู้หรือไม่ว่าการเติมลมยางมากเกินไปนั้นก็ส่งกระทบให้การขับขี่เช่นกัน การที่คุณเติมลมยางเพื่อหรือเติมลมยางแข็งเกินไปนั้นส่งผลทำให้ยางรถยนต์สัมผัสกับถนนจะลดลงทำให้รถของคุณยึดเกาะถนนได้ไม่ดีเท่าที่ควรและการลมยางมากเกินไปนั้นยังทำให้การขับขี่แข็งกระด้าง รู้สึกถึงแรงกระเเทกที่แรงกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิในขณะขับรถจนอาจทำให้เสียการควบคุมรถได้และแรงกระแทกนั้นยังส่งผลทำให้เกิดการสึกหรอของส่วนอื่นๆ ของรถคุณ เช่น ช่วงล่างของรถยนต์หรือคอพวงมาลัย เป็นต้น
การรักษาแรงดันลมยางให้เหมาะสมกับรถยนต์นั้นจะช่วยให้ยางรถยนต์ ของคุณมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ช่วยให้รถยนต์ของคุณควบคุมรถได้ดีขึ้นและสามารถขับขี่ได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้รถยนต์ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง หากคุณไม่ทราบว่าแรงดันลมยางรถยนต์ของคุณควรเป็นเท่าใด สามารถดูได้จากสมุดคู่มือของรถเพื่อทำการตรวจสอบแรงดันลมยางให้เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ และนี้คือคำแนะนำการเติมลมยางในรถยนต์แต่ละประเภท มาดูกันว่ารถยนต์ของคุณควรเติมลมยางเท่าไหร่
• รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมลมยางที่แรงลม 25 - 30 ปอนด์
• รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมลมยางที่แรงลม 30 - 35 ปอนด์
• เติมลมยางรถกระบะ (ไม่บรรทุก) ควรเติมลมยางที่แรงลม 35 - 40 ปอนด์
• รถตู้บรรทุก 7 - 10 คน ควรเติมลมยางที่แรงลม 43 - 55 ปอนด์
รู้หรือไม่ว่าการที่คุณขับรถตกหลุมบ่อบ่อยๆ นั้นส่งผลเสียต่อรถยนต์เช่น ส่งผลทำให้ยางรถยนต์เสียหายเมื่อได้รับแรงกระแทกจากการตกหลุมบ่ออย่างรุนแรงหรือบริเวณช่วงล่างของรถยนต์ได้รับความเสียหาย หากคุณตกหลุมบ่อบ่อยก็ควรตรวจสอบสภาพรถเป็นประจำถ้ารถยนต์ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว และนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ารถของคุณมีความเสียหายจากการตกหลุมบ่อ สามารถติดตามอ่านต่อได้ที่บทความ "ขับรถตกหลุมบ่อบ่อย ส่งผลเสียกับรถคุณอย่างไร"
ยางรถยนต์ถือว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับรถยนต์ของคุณควรดูแลให้สภาพดีอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ถนนและคนที่คุณรัก เพื่อให้แน่ใจว่ายางรถยนต์ของคุณได้รับการดูแลอย่างถูกต้องแวะมาให้เราดูแลที่ ค็อกพิท เราเป็นร้านเปลี่ยนยางรถยนต์ที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมช่างผู้ชำนาญงานที่จะช่วยดูแลตรวจเช็คความปลอดภัยเบื้องต้น พร้อมตรวจเช็คครอบคลุมชิ้นส่วนและอะไหล่สำคัญที่จะทำให้ผู้ใช้บริการ
#เติมลมยาง #เติมลมยางไนโตรเจน #เติมลมยางที่ค็อกพิท #ร้านเติมลมยาง
ค้นหาศูนย์บริการใกล้บ้าน https://www.cockpit.co.th/stores
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แบบคนกันเองได้ที่ Call center 1369
#คุ้มครบไวอุ่นใจที่ค็อกพิท
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
"คุ้มครบไว อุ่นใจที่ค็อกพิท"
Copyright © 2024 Bridgestone Sales (Thailand) Co.,Ltd. All Right Reserved.