November 8, 2024
ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด หรือรถสตาร์ทติดยาก ปัญหากวนใจที่ผู้ใช้รถทุกคนคงไม่อยากให้เกิดขึ้น ทั้งยังต้องเสียเงินเสียเวลาในการซ่อมเเซมไม่น้อย วันนี้เราจะพาไปดูสาเหตุหลักที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด เพื่อให้คุณรีบแก้ไขได้ทัน ก่อนสายไป แล้วปัญหานี้เกิดจากอะไรได้บ้าง ตามไปดูกันเลย
1. แบตเตอรี่เสื่อม
หากแบตเตอรี่ของคุณใช้งานมามากกว่า 2 ปี เป็นไปได้ที่แบตเตอรี่อาจจะเสื่อมสภาพตามกาลเวลาหรือการใช้งาน ส่งผลให้ตัวแบตเตอรี่เก็บประจุไฟฟ้าได้ในระยะเวลาสั้นลง และแบตหมดไวขึ้น ซึ่งอาจทำให้สตาร์ทรถไม่ติดได้
2. ขั้วแบตเตอรี่สกปรก
ขั้วแบตเตอรี่สกปรก มีคราบขี้เกลือเกาะอยู่ที่บริเวณขั้วแบตเตอรี่ หากปล่อยไว้ อาจจะทำให้กระแสไฟฟ้าที่ส่งไปยังส่วนอื่น ๆ ส่งไปได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้กระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอที่จะสตาร์ทรถให้ติดได้
3. ไดสตาร์ทเสื่อม/มอเตอร์สตาร์ท มีปัญหา
ไดสตาร์ทเสื่อมสภาพ หรือเกิดความเสียหาย เช่น ฟิวส์มอเตอร์สตาร์ทขาด สายไฟที่ต่อไปยังสตาร์ทมอเตอร์อาจขาดหรือหลุดออกจากจุดต่อ หรือแปรงถ่านที่อยู่ในมอเตอร์สตาร์ทหมด เป็นต้น แนะนำให้นำรถเข้าพบช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการแก้ไขปัญหาโดยด่วน
4. ไดชาร์จมีปัญหา
ไดชาร์จเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการทำหน้าที่สร้างกระแสไฟจากการที่เครื่องยนต์ทำงานแล้วส่งไปเก็บไว้ยังแบตเตอรี่ ดังนั้น หากไดชาร์จเสื่อมสภาพจากระยะการใช้งานหรือเสีย จะทำให้ไม่สามารถจ่ายไฟหรือชาร์จไฟไปยังแบตเตอรี่ได้ ส่งผลให้แบตเตอรี่หมด และไม่มีกระแสไฟเพียงพอที่จะสตาร์ทรถให้ติดนั่นเอง
5. ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเสีย (ปั๊มติ๊ก)
เพราะปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ดูดน้ำมันจากตัวถังไปยังเครื่องยนต์ ซึ่งหากปั๊มเสียหรือเสื่อมสภาพ จะทำให้ไม่สามารถจุดระเบิดเครื่องเครื่องยนต์ได้ จนทำให้รถสตาร์ทยากนั่นเอง
6. น้ำมันหมด
สาเหตุง่าย ๆ ที่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้งหากคุณไม่เตรียมพร้อมเวลาไปไหนมาไหน คือ เหตุการณ์น้ำมันหมด เพราะเมื่อน้ำมันเหลือน้อย จะส่งผลให้ปั๊มติ๊กไม่สามารถดูดเชื้อเพลิงไปใช้ต่อได้ จนส่งผลให้สตาร์ทรถไม่ติดนั่นเอง
7. จอดรถทิ้งไว้นาน ไม่ค่อยได้ใช้งาน
การจอดรถทิ้งไว้ โดยไม่ได้สตาร์ทรถเป็นเวลานาน อาจจะส่งผลเสียและเกิดปัญหามากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะปัญหาแบตเตอรี่หมด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รถที่จอดทิ้งไว้เป็นเวลานานสตาร์ทไม่ติด
#แบตเตอรี่ GS #ราคาแบตเตอรี่ GS #รุ่นแบตเตอรี่ GS #เปลี่ยนแบตเตอรี่ GS #ร้านแบตเตอรี่ GS
การเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานก็เป็นส่วนสำคัญต่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่ได้เช่นกัน วันนี้ ค็อกพิท จะพาไปทำความรู้จักประเภทของแบตเตอรี่ GS ว่าแตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกแบตเตอรี่ GS แบบไหนให้เหมาะกับรถของคุณ
1. แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไม่เติมน้ำกลั่น (Maintenance Free)
แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไม่เติมน้ำกลั่น (Maintenance Free) แบตเตอรี่ประเภทพร้อมใช้ มีความอึดมั่นใจไม่ต้องดูแล กำลังไฟสตาร์ทสูง ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน *การดูแลน้ำกลั่นขึ้นอยู่กับสภาพการใช้รถยนต์
แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไม่เติมน้ำกลั่น (MF) เหมาะสำหรับรถ?
เหมาะกับรถยนต์ใช้งานทั่วไป รถยนต์หรือรถกระบะใช้งานในเมือง ตัวอย่าง เช่น
• รุ่น แบตเตอรี่ GS BAGS MFX-60L - 50
• รุ่น แบตเตอรี่ GS BAGS LN2-MF - 65
2. แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไฮบริด (Extra Hybrid)
แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไฮบริด (Extra Hybrid) ลักษณะพิเศษของแบตเตอรี่ประเภทไฮบริด อึดทนทาน คุ้มค่าทุกการใช้งาน ผสมผสานเทคโนโลยีระหว่างแบตเตอรี่ Maintenance Free และ Conventional ไฟแรงเต็มพลัง ขับลุยได้ตลอดวัน เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น ควรดูแลน้ำกลั่นทุก 3 เดือน
แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไฮบริด (HB) เหมาะสำหรับรถ?
เหมาะกับรถยนต์เชิงพาณิชย์หรือรถยนต์ใช้งานทั่วไป ตัวอย่าง เช่น
• รุ่น แบตเตอรี่ GS BAGS EXTRA 120L-DRY 80
3. แบตเตอรี่ GS ประเภทชนิดเติมน้ำกลั่น (Conventional)
แบตเตอรี่ GS ประเภทชนิดเติมน้ำกลั่น (Conventional) อึดยาวนาน ลุยงานหนัก ทนงานหนัก วิ่งทางไกลได้ดี เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น ควรดูแลระดับน้ำกลั่นทุก 15 วัน
แบตเตอรี่ GS ประเภทชนิดเติมน้ำกลั่น (CV) เหมาะสำหรับรถ?
เหมาะกับกลุ่มรถใช้งานหนัก เช่น รถบรรทุกทั่วไป รถบัสปรับอากาศและรถไถทั่วไป เป็นต้น ตัวอย่าง เช่น
• รุ่น แบตเตอรี่ GS Conventional
4. แบตเตอรี่ GS ที่รองรับระบบ ISS
แบตเตอรี่ที่รองรับระบบ ISS มีความทนทาน ไฟแรง มาพร้อมกับ 3 คุณสมบัติเด่น เป็นแบตเตอรี่ที่มีโครงสร้าง Expansion grid รูปทรงไขว้บิดเกลียวช่วยให้จ่ายไฟได้เต็มประสิทธิภาพ ใช้ผงตะกั่วบริสุทธิ์จึงทนทานต่อการกัดกร่อน ทั้งยังให้กำลังไฟสูงและแผ่นกั้นแผ่นธาตุ PE ที่คิดค้นสูตรพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะ แบตเตอรี่ GS เท่านั้น จึงช่วยลดปัญหาขั้วแตกและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ จึงเป็นรุ่นที่รองรับสำหรับการใช้งานระบบ ISS
แบตเตอรี่ GS ที่รองรับระบบ ISS เหมาะสำหรับรถ?
เหมาะกับกลุ่มรรถยนต์ที่ติดตั้งระบบ ISS ตัวอย่าง เช่น
รุ่น แบตเตอรี่ GS BAGS N-55-ISS - 55
#แบตเตอรี่ GS #ราคาแบตเตอรี่ GS #รุ่นแบตเตอรี่ GS #เปลี่ยนแบตเตอรี่ GS #ร้านแบตเตอรี่ GS
รู้หรือไม่ แค่เลือกขนาดแอมป์แบตเตอรี่ให้ตรงตามรุ่นรถยนต์ของคุณ ก็สามารถช่วยเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยยืดอายุระบบไฟได้ยาวนานยิ่งขึ้น สำหรับผู้ใช้รถเก๋ง ก็คงสงสัยว่ารถเก๋งที่คุณที่ใช้งานอยู่นั้น ใช้แบตเตอรี่ขนาดกี่แอมป์ หากต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เลือกแบตเตอรี่ประเภทไหนดี ถึงจะเหมาะกับรถของคุณ วันนี้เรามีคำตอบ สามารถติดตามอ่านต่อได้ที่บทความ “รถเก๋งควรใช้แบตเตอรี่ขนาดกี่แอมป์ดี ?”
เราเป็นศูนย์บริการรถยนต์ที่ตอบโจทย์ เชี่ยวชาญเรื่อง แบตเตอรี่รถยนต์ และให้บริการราคาแบตเตอรี่รถยนต์ ที่เหมาะสม ไม่ต่างจากร้านเปลี่ยนแบตรถยนต์โดยเฉพาะ และเรามีเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมช่างผู้ชำนาญงาน ที่จะช่วยดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ตรวจเช็คความปลอดภัยเบื้องต้น พร้อมตรวจเช็คครอบคลุมชิ้นส่วนและอะไหล่สำคัญ ที่จะทำให้ผู้ใช้บริการอุ่นใจ และมั่นใจทุกครั้งเมื่อนำรถมาเข้ารับบริการซึ่งเราจะให้บริการด้วยเวลาที่เหมาะสมจากบริการที่รวดเร็ว ราคาที่เหมาะสม และคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้มาใช้บริการ
#แบตเตอรี่ GS #ราคาแบตเตอรี่ GS #รุ่นแบตเตอรี่ GS #เปลี่ยนแบตเตอรี่ GS #ร้านแบตเตอรี่ GS
ค้นหาศูนย์บริการใกล้บ้าน https://www.cockpit.co.th/stores
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แบบคนกันเองได้ที่ Call center 1369
#คุ้มครบไวอุ่นใจที่ค็อกพิท
"คุ้มครบไว อุ่นใจที่ค็อกพิท"
Copyright © 2025 Bridgestone Sales (Thailand) Co.,Ltd. All Right Reserved.