4 ระบบรถยนต์ ที่ควรหมั่นดูแลให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

January 5, 2025


  อะไหล่รถยนต์ทุกชิ้นส่วนบนรถ ก็มีวันหมดอายุเหมือนกัน ยิ่งรถที่ใช้งานหนักก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะอาจมีการชำรุดหรือเสื่อมสภาพไปตามการใช้งานเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้น ผู้ขับขี่ต้องคอยบำรุงรักษาและเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยเฉพาะ 4 ระบบที่จะกล่าวต่อไปนี้ ที่ควรหมั่นดูแล


4 ระบบรถยนต์ ที่ควรหมั่นดูแลให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ


  1. ระบบเครื่องยนต์ ของเหลวและอุปกรณ์รถ
- น้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง โดยเฉลี่ยระยะเวลาที่ควรเปลี่ยนทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร หรือทุก ๆ 6 เดือน (ขึ้นอยู่กับการใช้งานและลักษณะน้ำมันเครื่องที่ใช้)
- น้ำมันเกียร์และน้ำมันเฟืองท้าย ระยะเวลาเปลี่ยนทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
- น้ำยาหล่อเย็น หรือน้ำยาหม้อน้ำ ควรเปลี่ยนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และตรวจเช็กให้อยู่ในระดับอย่างสม่ำเสมอ
- หัวเทียน ระยะเวลาเปลี่ยนประมาณ 40,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับประเภทหัวเทียน)
- ใบปัดน้ำฝน ระยะเวลาเปลี่ยนประมาณ 1 ปีขึ้นไป
- หลอดไฟ ถ้าพบหลอดไฟในรถขาด ควรเปลี่ยนทันที และหมั่นเช็กความสว่างของหลอดไฟในรถยนต์บ่อย ๆ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว ฯลฯ


  2. ระบบเบรกและช่วงล่าง
- ผ้าเบรก ระยะเวลาเปลี่ยนประมาณ 50,000 - 70,000 กิโลเมตร ควรตรวจเช็กและทำความความสะอาด รวมถึงตั้งระยะเบรกมือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร
- ยางรถยนต์ ระยะเวลาเปลี่ยนทุก ๆ 50,000 กิโลเมตร หรือทุก 2 ปี และสลับยางถ่วงล้อทุก 10,000 กิโลเมตร
- โช้คอัพหน้า-หลัง ตรวจเช็กระบบการทำงานของโช้คอัพทุก 1 ปี หรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร
- ระบบคันบังคับเลี้ยว ลูกหมาก ลูกปืน และยางกันฝุ่น ตรวจเช็กสภาพทุก ๆ 1 ปีระยะเวลาเปลี่ยน 80,000 – 100,000 กิโลเมตร


  3. ระบบแอร์และระบบไฟฟ้า
- ตรวจเช็กสารทำความเย็นหรือน้ำยาแอร์ทุก ๆ 60,000 กิโลเมตร ควรเช็กระดับน้ำยาแอร์อยู่สม่ำเสมอ 
- ไส้กรองแอร์ ควรตรวจเช็กทุก 10,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน)
- ฟิวส์รถ หากเกิดวงจรไฟฟ้าในรถไม่ทำงาน อาจเกิดฟิวส์รถขาด ให้ตรวจสอบอุปกรณ์ในวงจรว่าเกิดความเสียหายหรือเกิดลัดวงจรหรือไม่? แล้วทำการเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ที่มีค่าการทนกระแสไฟฟ้าเท่าเดิมทันที


  4. ระบบแบตเตอรี่
ปัญหารถสตาร์ทรถติดยาก หรือแบตเตอรี่รถน้ำกลั่นหมดเร็วกว่าปกติ ต้องเติมบ่อย ๆ อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบอกเหตุ แบตเตอรี่ใกล้หมดสภาพ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่แล้ว
- แบตเตอรี่ระยะเวลาควรเปลี่ยนทุก 1 ปีครึ่ง
- สำหรับแบตเตอรี่ชนิด Conventional (แบตเตอรี่น้ำ) ควรเช็กน้ำกลั่นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
- ผู้ใช้งานรถควรเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับการใช้งาน 
#แบตเตอรี่ GS #ราคาแบตเตอรี่ GS #รุ่นแบตเตอรี่ GS #เปลี่ยนแบตเตอรี่ GS #ร้านแบตเตอรี่ GS



   ถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ แต่ไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี  ไปทำความรู้จักประเภทของ แบตเตอรี่ GS ว่าแตกต่างกันอย่างไร ควรเลือก แบตเตอรี่ GS แบบไหนให้เหมาะกับรถของคุณ


เลือก แบตเตอรี่ GS อย่างไรให้เหมาะกับรถของคุณ?


  1. แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไม่เติมน้ำกลั่น (Maintenance Free)
แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไม่เติมน้ำกลั่น (Maintenance Free) แบตเตอรี่ประเภทพร้อมใช้ มีความอึดมั่นใจไม่ต้องดูแล กำลังไฟสตาร์ทสูง ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน *การดูแลน้ำกลั่นขึ้นอยู่กับสภาพการใช้รถยนต์

แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไม่เติมน้ำกลั่น (MF) เหมาะสำหรับรถ?
เหมาะกับรถยนต์ใช้งานทั่วไป รถยนต์หรือรถกระบะใช้งานในเมือง ตัวอย่าง เช่น
• รุ่น แบตเตอรี่ GS BAGS MFX-60L - 50 
• รุ่น แบตเตอรี่ GS BAGS LN2-MF - 65


  2. แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไฮบริด (Extra Hybrid)
แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไฮบริด (Extra Hybrid) ลักษณะพิเศษของแบตเตอรี่ประเภทไฮบริด อึดทนทาน คุ้มค่าทุกการใช้งาน ผสมผสานเทคโนโลยีระหว่างแบตเตอรี่ Maintenance Free และ Conventional ไฟแรงเต็มพลัง ขับลุยได้ตลอดวัน เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น ควรดูแลน้ำกลั่นทุก 3 เดือน

แบตเตอรี่ GS ประเภทแบบไฮบริด (HB) เหมาะสำหรับรถ?
เหมาะกับรถยนต์เชิงพาณิชย์หรือรถยนต์ใช้งานทั่วไป ตัวอย่าง เช่น
• รุ่น แบตเตอรี่ GS BAGS EXTRA 120L-DRY 80 


  3. แบตเตอรี่ GS ประเภทชนิดเติมน้ำกลั่น (Conventional)
แบตเตอรี่ GS ประเภทชนิดเติมน้ำกลั่น (Conventional) อึดยาวนาน ลุยงานหนัก ทนงานหนัก วิ่งทางไกลได้ดี เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น ควรดูแลระดับน้ำกลั่นทุก 15 วัน

แบตเตอรี่ GS ประเภทชนิดเติมน้ำกลั่น (CV) เหมาะสำหรับรถ?
เหมาะกับกลุ่มรถใช้งานหนัก เช่น รถบรรทุกทั่วไป รถบัสปรับอากาศและรถไถทั่วไป เป็นต้น ตัวอย่าง เช่น
• รุ่น แบตเตอรี่ GS Conventional 


  4. แบตเตอรี่ GS ที่รองรับระบบ ISS
แบตเตอรี่ที่รองรับระบบ ISS มีความทนทาน ไฟแรง มาพร้อมกับ 3 คุณสมบัติเด่น เป็นแบตเตอรี่ที่มีโครงสร้าง Expansion grid รูปทรงไขว้บิดเกลียวช่วยให้จ่ายไฟได้เต็มประสิทธิภาพ ใช้ผงตะกั่วบริสุทธิ์จึงทนทานต่อการกัดกร่อน ทั้งยังให้กำลังไฟสูงและแผ่นกั้นแผ่นธาตุ PE ที่คิดค้นสูตรพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะ แบตเตอรี่ GS เท่านั้น จึงช่วยลดปัญหาขั้วแตกและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ จึงเป็นรุ่นที่รองรับสำหรับการใช้งานระบบ ISS

แบตเตอรี่ GS ที่รองรับระบบ ISS เหมาะสำหรับรถ?
เหมาะกับกลุ่มรรถยนต์ที่ติดตั้งระบบ ISS
#แบตเตอรี่ GS #ราคาแบตเตอรี่ GS #รุ่นแบตเตอรี่ GS #เปลี่ยนแบตเตอรี่ GS #ร้านแบตเตอรี่ GS




เกร็ดความรู้ เพิ่มเติม 


   แบตเตอรี่รถยนต์เป็นส่วนสำคัญที่ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ ถ้าหากเมื่อไหร่ที่พบอาการเสียงเครื่องยนต์ดังผิดปกติ แบตเตอรี่มีสภาพบวมอย่างผิดปกติ หรือเครื่องยนต์ทำงานแต่ไฟไม่เข้า สัญญาณเตือนอาการดังกล่าวอาจบ่งบอกว่ารถของคุณมีปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์บวม สาเหตุเกิดจากอะไร ที่ทำให้แบตเตอรี่บวม ตามไปดูกันเลย สามารถติดตามอ่านต่อได้ที่บทความ “วิธีอาการแบตเตอรี่บวม เกิดจากสาเหตุอะไร?”



อยากเปลี่ยน แบตเตอรี่ GS แวะมาที่...ค็อกพิท (Cockpit) เราเป็นศูนย์บริการที่ตอบโจทย์ และเชี่ยวชาญเรื่อง แบตเตอรี่รถยนต์ ไม่ต่างจากร้านเปลี่ยนแบตรถยนต์โดยเฉพาะ


   เราเป็นศูนย์บริการรถยนต์ที่ตอบโจทย์ เชี่ยวชาญเรื่อง แบตเตอรี่รถยนต์ และให้บริการราคาแบตเตอรี่รถยนต์ ที่เหมาะสม ไม่ต่างจากร้านเปลี่ยนแบตรถยนต์โดยเฉพาะ และเรามีเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมช่างผู้ชำนาญงาน ที่จะช่วยดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ตรวจเช็คความปลอดภัยเบื้องต้น พร้อมตรวจเช็คครอบคลุมชิ้นส่วนและอะไหล่สำคัญ ที่จะทำให้ผู้ใช้บริการอุ่นใจ และมั่นใจทุกครั้งเมื่อนำรถมาเข้ารับบริการซึ่งเราจะให้บริการด้วยเวลาที่เหมาะสมจากบริการที่รวดเร็ว ราคาที่เหมาะสม และคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้มาใช้บริการ
#แบตเตอรี่ GS #ราคาแบตเตอรี่ GS #รุ่นแบตเตอรี่ GS #เปลี่ยนแบตเตอรี่ GS #ร้านแบตเตอรี่ GS


ค้นหาศูนย์บริการใกล้บ้าน https://www.cockpit.co.th/stores
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แบบคนกันเองได้ที่ Call center 1369
#คุ้มครบไวอุ่นใจที่ค็อกพิท







Reference
รู้หรือไม่? อะไหล่รถยนต์มีวันหมดอายุด้วยนะ!
URL :
รู้หรือไม่? อะไหล่รถยนต์มีวันหมดอายุด้วยนะ!

Share