พฤติกรรมการขับขี่ ที่เสี่ยงทำให้รถพังเร็ว โดยไม่รู้ตัว

   • ไม่วอร์มหรืออุ่นเครื่องยนต์ก่อนขับรถออกจากบ้านในทุกเช้า
การไม่อุ่นเครื่องยนต์ก่อนออกเดินทางจากบ้านในตอนเช้านั้น มีความเสี่ยงต่อการเกิดสึกหรอของเครื่องยนต์ เนื่องจากเราจอดรถไว้เป็นระยะเวลานานหรือจอดรถข้ามวัน น้ำมันเครื่องจะไหลลงมาจุดต่ำสุดหรือไหลลงมาที่อ่างน้ำมันเครื่อง หากเราสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วออกตัวทันที จะส่งผลทำให้น้ำมันเครื่องยังไม่ไหลเวียนไปทั่วระบบ ทำให้ชิ้นส่วนโลหะเสียดสีโดยไม่มีน้ำมันหล่อลื่นเพียงพอ และอุณหภูมิที่ยังไม่เหมาะสมที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักเกินไป

   • การเหยียบเบรกกะทันหันบ่อยๆ
พฤติกรรมการเหยียบเบรกรกะทันหันบ่อยๆ ส่งผลเสียต่อความปลอดภัยและยังมีผลเสียต่อระบบเบรกอย่างมาก ทำให้ผ้าเบรกสึกเร็วกว่าปกติ จานเบรกอาจคด และระบบเบรกทำงานผิดปกติในระยะยาว ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงโดยการขับขี่ด้วยความใจเย็น เว้นระยะห่างปลอดภัย ใช้การผ่อนคันเร่งช่วยชะลอรถแทน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและรักษาประสิทธิภาพรถ

   • การใช้งานเกียร์ไม่เหมาะสม
การใช้งานเกียร์ไม่เหมาะสม คือ การเปลี่ยนเกียร์ผิดจังหวะไม่เหมาะกับสถานการณ์ เช่น การเปลี่ยนเกียร์ D ไป R หรือ R ไป D โดยที่ไม่ได้หยุดรถก่อน, ใช้เกียร์ N แล้วเข้าเกียร์ D ทันทีในขณะรถยังไหล, เปลี่ยนเกียร์ต่ำกระทันหันในขณะที่รอบเครื่องยังสูงอยู่, กระชากเกียร์เพื่อเร่งแซงหรือขึ้นเขาแบบไม่สมดุลกับความเร็ว ซึ่งส่งผลเสียต่อรถยนต์ เช่น ทำให้เกียร์พังเร็ว, สึกหรอ, หรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

   • ปล่อยน้ำมันเหลือก้นถังบ่อยๆ
การปล่อยให้น้ำมันเชื้อเพลิงเหลือก้นถังบ่อยๆ อาจเสี่ยงทำให้ปั๊มเชื้อเพลิง หรือ ปั๊มติ๊กน้ำมันทำงานหนักและเสียหาย เมื่อน้ำมันเหลือน้อยตะกอนที่ก้นถังน้ำมันจะถูกดูดเข้าไปใช้ในระบบ ทำให้ปั๊มติ๊กทำงานหนักและร้อนจัด เสื่อมสภาพเร็ว ดังนั้นควรรักษาระดับน้ำมันเอาไว้ไม่ให้ต่ำกว่า ¼ ของถัง ควรเติมน้ำมันทันทีเมื่อน้ำมันใกล้หมดโดยไม่ต้องรอให้ขึ้นไฟเตือน

   • ไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด
การไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามกำหนดจะทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพ สูญเสียคุณสมบัติการหล่อลื่นและระบายความร้อน เกิดการเสียดสีและสึกหรอของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ทำงานได้ไม่เต็มที่ และอาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรง ดังนั้นควรเช็กกับคู่มือรถว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่งทุกกี่กิโลเมตร และหมั่นตรวจระดับน้ำมันเครื่อง

   • บรรทุกของหนักเกินไป
การที่ใช้รถบรรทุกของมากหรือหนักจนเกินไป เสี่ยงทำให้ระบบช่วงล่าง เบรก และยางเกิดการสึกหรอได้อย่างรวดเร็ว และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุการบรรทุกน้ำหนักเกินอัตรา ส่งผลทำให้มีการตอบสนองรวมถึงการควบคุมรถเป็นได้ยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยว การเบรก หากมีรถตัดหน้าหรือถนนลื่นก็มีโอกาสเสียหลักได้ง่าย ดังนั้นควรตรวจสอบน้ำหนักที่รถยนต์ของเราสามารถรับได้ เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน โดยดูได้จากคู่มือประจำรถของคุณ

  ดังนั้น เพื่อยืดอายุการใช้งานรถยนต์ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการขับขี่ดังกล่าว และควรนำรถเข้าเช็คระยะตามกำหนด ที่คู่มือรถแนะนำ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของรถยนต์
#เช็คระยะ #เช็คระยะรถ #เช็คระยะรถยนต์ #เช็คระยะที่ค็อกพิท #เช็คระยะราคา #โปรเช็คระยะ

 ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ หรือรถรุ่นเก่า สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย ก็คือการนำรถเข้าตรวจสภาพรถ เช็คระยะ ให้รถอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ 

ตรวจสภาพรถ เช็คระยะ แวะมา ค็อกพิท ที่เดียวจบ บริการครบได้มาตรฐาน