October 2, 2022
โดยปกติแล้วรถยนต์ทุกคันจะมีคู่มือรถที่กำหนดระยะทางหรือระยะเวลา ที่รถยนต์ควรเข้ารับตรวจสภาพรถ เช็คระยะ ตามที่คู่มือรถกำหนดไว้ ซึ่งการนำรถเข้าศูนย์เช็คระยะ ตรวจสภาพรถนั้น คือการตรวจเช็ครถอย่างละเอียดและรวมถึงการเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ของรถยนต์ที่ชำรุด หากคุณนำรถเข้าตรวจสภาพรถอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ เมื่อเจอปัญหาคุณก็จะสามารถแก้ไขซ่อมแซมได้ทันเวลา เพื่อให้รถของคุณอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แบบและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ แต่ถ้าหากคุณละเลยไม่ได้นำรถไปเช็คระยะ ตามเวลาที่คู่มือรถกำหนดไว้ คุณอาจประสบปัญหาเกี่ยวกับรถที่ไม่ควรเกิดขึ้น เช่น
• ค่าซ่อมแซมที่สูงขึ้น
คุณสามารถหลีกเลี่ยงการซ่อมแซมเครื่องยนต์ที่มีราคาแพงได้ เพียงแค่คุณทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่คู่มือรถกำหนดไว้ หากคุณดูแลรถและปฏิบัติตามคู่มือรถที่กำหนดไว้นั้นไม่ใช่เพียงแค่ช่วยดูแลรถของคุณให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้คุณประหยัดได้มากกว่าในระยะยาว
• รถกินน้ำมันมากขึ้น
การเพิกเฉยต่อตารางการบำรุงรักษาที่คู่มือรถกำหนดไว้นั้น ไม่เพียงแต่ทำให้คุณเสียค่าซ่อมแซมรถยนต์เท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้คุณเสียค่าน้ำมันที่สูงขึ้นอีกด้วย เนื่องจากรถที่ไม่ได้รับการดูแลจะส่งผลทำให้เครื่องยนต์ใช้น้ำมันเครื่องเก่าและไม่ได้รับการเปลี่ยนหัวเทียนที่สึกหรอ ส่งผลทำให้รถยนต์ไม่สามารถวิ่งได้เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร
• การขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย
มากกว่าการเสียเงินซ่อมแซมรถแล้ว การเพิกเฉยต่อตารางการบำรุงรักษาที่คู่มือรถกำหนดไว้ยังลดความปลอดภัยของคุณลงด้วย ตัวอย่างเช่น การใช้งานยางรถยนต์ที่มีดอกยางเหลือน้อยก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการขับขี่ เพราะยางที่ไม่มีดอกยางเพียงพอรถก็มีแนวโน้มที่จะเกิดการลื่นไถลขณะขับขี่ได้ และเสี่ยงต่อยางระเบิดอีกด้วย การใช้ผ้าเบรกที่สึกหรอก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเบรกลดลง แม้แต่การลืมเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนของกระจกหน้ารถก็อาจทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นขณะฝนตกลดลง
• มูลค่ารถขายต่อต่ำกว่าราคาตลาด
การที่คุณละเลยการดูแลรถยนต์และไม่นำรถเข้าเช็คระยะตามที่คู่มือรถกำหนดไว้นั้น เมื่อถึงเวลาที่คุณอยากเปลี่ยนรถคันใหม่และต้องการขายรถคันเก่าก็อาจจะขายยากกว่ารถที่ได้รับการดูแลมาอย่างดี เพราะรถที่ละเลยการบำรุงรักษา อาจจะไม่สามารถขายได้หรือถ้าขายได้ก็จะมีราคาที่ต่ำกว่าตลาด
• อายุการใช้งานรถยนต์ลดลง
สิ่งสำคัญที่สุดของรถยนต์ก็คือการบำรุงรักษาตามที่คู่มือรถกำหนดไว้ เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์และสามารถใช้งานได้สูงสุดจากรถยนต์ของคุณ
ดังนั้นผู้ขับขี่อย่าลืมดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำในคู่มือรถ และหากกำลังมองหาโช๊คอัพที่มีคุณภาพ วันนี้ ค็อกพิท ก็ได้นำมาฝากอีกด้วย มาดูกันเลยว่ามีแบรนด์อะไรบ้าง
1. โช๊คอัพ (shock absorber) KYB
โช๊คอัพ (shock absorber) KYB จากประเทศญี่ปุ่นเป็นโช๊คอัพที่โรงงานผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายบริษัทเลือกใช้ โดยโช๊คอัพ KYB นั้น มีเทคโนโลยีการผลิตคุณภาพระดับสูงทำให้ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือจากผู้ใช้รถ โช๊คอัพ KYB มีหลากหลายรุ่นที่สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลายการใช้งานไม่ว่าจะเป็น รถบรรทุก รถเอสยูวี รถครอสโอเวอร์ ก็สามารถเลือกใช้โช๊คอัพ KYB ได้
โช๊คอัพ (shock absorber) KYB ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับการขับขี่ได้ดี ไม่ว่าจะเข้าโค้ง หรือขับขี่ด้วยความเร็วสูงก็สามารถสปริงขึ้น-ลงได้อย่างรวดเร็วตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้รถของคุณยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น แม้ในการขับขี่ด้วยความเร็วสูงโช๊คอัพ KYB ก็สามารถทำให้รถยนต์ทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยมและสามารถช่วยดูดซับแรงกระแทกจากหลุมบ่อได้ดี จึงช่วยให้รถของคุณขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล
2. โช๊คอัพ (shock absorber) TOKICO
โช๊คอัพ (shock absorber) TOKICO เป็นโช๊คอัพที่ได้รับการออกแบบจากประเทศญี่ปุ่นและมีโรงงานผลิตที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมามากกว่า 81 ปี ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตระบบช่วงล่างและระบบเบรกเพื่อตอบสนองต่อความต้องการในตลาดรถยนต์ ซึ่งบริษัทฯได้มีการพัฒนาระบบบริหารคุณภาพและได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน IATF16949 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ จนได้รับการยอมรับและได้รับความไว้วางใจทั้งผู้ใช้งานรถยนต์ และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก
โช๊คอัพ (shock absorber) TOKICO สามารถใช้งานครอบคลุมทั้งรถกระบะ, รถตู้, SUV, MPV, และรถเก๋ง มีคุณสมบัติการรองรับแรงสั่นสะเทือนของรถยนต์ที่มีคุณภาพระดับสากล ที่สำคัญโช๊คอัพ TOKICO ทุกชิ้น ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานสูงสุด ช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดี ตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แม้ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ยังมีหลายคนที่ยังเข้าใจผิดว่าการตั้งศูนย์ถ่วงล้อนั้น เป็นส่วนเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วการตั้งศูนย์ถ่วงล้อมีหน้าที่และวิธีการดูแล ที่ไม่เหมือนกันเลยและการตั้งศูนย์ถ่วงล้อนั้นสำคัญอย่างมากในการขับรถ เพราะหากว่ารถของคุณไม่ได้รับการตั้งศูนย์ถ่วงล้อเลย จะทำให้มีผลต่อการใช้งานรถเป็นอย่างมาก ซึ่งวันนี้ ค็อกพิท จะมาอธิบายการตั้งศูนย์ถ่วงล้อนั้นว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร คุณสามารถติดตามอ่านได้ที่ “สัญญาณเตือน ที่บ่งบอกว่ารถยนต์ ของคุณควรตั้งศูนย์ถ่วงล้อ”
เรามีโช๊คอัพ (shock absorber) หลากหลายรุ่นที่เหมาะสมกับรถทุกประเภทและมีเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมช่างผู้ชำนาญงานที่จะช่วยดูแลโช๊คอัพรถยนต์ของคุณ และตรวจเช็คความปลอดภัยเบื้องต้น พร้อมตรวจเช็คครอบคลุมชิ้นส่วนและอะไหล่สำคัญที่จะทำให้ผู้ใช้บริการอุ่นใจ และมั่นใจทุกครั้งเมื่อนำรถมาเข้ารับบริการซึ่งเราจะให้บริการด้วยเวลาที่เหมาะสมจากบริการที่รวดเร็ว ราคาที่เหมาะสม และคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้มาใช้บริการ
ค้นหาศูนย์บริการใกล้บ้าน https://www.cockpit.co.th/stores
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แบบคนกันเองได้ที่ Call center 1369
#คุ้มครบไวอุ่นใจที่ค็อกพิท
"คุ้มครบไว อุ่นใจที่ค็อกพิท"
Copyright © 2025 Bridgestone Sales (Thailand) Co.,Ltd. All Right Reserved.