January 30, 2023
ในปัจจุบันโลกของเราพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มีเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายที่ถูกสร้างขึ้นมาอำนวยความสะดวกสบายให้กับเราได้ใช้กัน อย่างเช่น 9 เทคโนโลยี รถยนต์สุดล้ำ
1. เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Vehicle)
เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับได้ถูกพัฒนาขึ้นในปี 2018 ที่ผ่านมา โดยนวัตกรรมยานยนต์นี้เริ่มมีการพัฒนา
และออกมาให้ใช้กันบ้างแล้วในบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกหลายแห่ง เช่น Tesla เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทเทคโนโลยี
ยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Apple, Uber,Baidu, Intel ต่างก็เริ่มมีการพัฒนา เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับด้วยเช่นกัน
2. ระบบแทรกแซงผู้ขับ (Driver Override Systems)
นวัตกรรมนี้สามารถทำงานได้ในขณะที่เรากำลังขับขี่รถอยู่ ด้วยการใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์และระบบประมวลผลที่รวดเร็ว รถยนต์จึงสามารถทำงานสวนทางกับสิ่งที่คุณสั่งได้ เช่น รถยนต์จะเลี่ยงสิ่งที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุด้วยการสั่งการ ให้เบรกอัตโนมัติ แม้ว่าเราจะเหยียบคันเร่งอยู่ก็ตาม ซึ่งเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่กันบ้างแล้ว
3. เทคโนโลยีชีวมาตร (Blometric)
นวัตกรรมที่ใช้ข้อมูลเชิงชีวภาพที่วัดค่า ของผู้ขับขี่มาใช้ในการประเมินผล เพื่อความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ เช่น ใช้ลายนิ้วมือในการสตาร์ทรถยนต์หรือสั่งการระบบต่างๆ ภายในรถยนต์ และหากรถยนต์มีผู้ใช้งานหลายคน ลายมือของแต่ละคนจะเป็นตัวระบุให้การปรับค่าต่างๆ ของรถเป็นไปตามขนาดร่างกาย
4. ระบบติดตามรถยนต์สมบูรณ์ IUU (Comprehensive Vehicle Tracking)
จากการเก็บค่าประกันภัยรถยนต์จากข้อมูลการขับขี่ของผู้ขับ ทั้งระยะทาง ความเร็วที่ใช้สถานที่ที่จอดประจำ จากนั้นจึงส่งสัญญาณข้อมูลมาที่บริษัทเพื่อทำการประเมินผลโดยอัตโนมัติ เพื่อประเมินความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งผู้ขับขี่จะต้องยินยอมมอบข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้ให้กับบริษัทประกันเพื่อแลกกับสวนลดค่าเบี้ยประกัน
5. ระบบกระจกหน้าแบบแอคทีฟ (Active Window Display)
พัฒนามาจากเทคโนโลยีเอชยูดี (HUD : Head-Up Display) จากเดิมที่เป็นเพียงการบอกข้อมูลความเร็ว หรือลูกศรนำทาง
ขนาดเล็กบนกระจกหน้ารถ ก็ได้พัฒนาการแสดงผลให้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้นและในอนาคตการมองภาพผ่านกระจกหน้ารถจะเป็นภาพซ้อนเสมือนจริงทำให้เราเห็นภาพของระบบนำทางหรือข้อมูลที่น่าสนใจบนกระจกหน้ารถในแบบ 3 มิติเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น
6. ระบบตัดการทำงานจากระยะไกล (Remote Vehicle Shut Down)
เป็นเทคโนโลยีในระบบออนสตาร์ (Onstar) ของรถยนต์ในเครือจีเอ็มที่ทำงานผ่านโครงข่าย 4G ร่วมกับจีพีเอส โดยระบบนี้จะติดตามข้อมูลของรถยนต์ในเครือข่ายอยู่ตลอดเวลา หากพบว่ารถยนต์เกิดอุบัติเหตุก็จะมีทีมกู้ชีพ เข้าไปช่วยเหลือในทันที รวมถึงช่วยระบุตำแหน่งของรถ หากเกิดการโจรกรรม และสามารถสั่งการดับเครื่องรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมได้ทันที
7. ระบบตรวจวัดสุขภาพของผู้ขับ (Active Health Monitoring)
เป็นการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับการทำงานของหัวใจเข้ากับสายเข็มขัดนิรภัย พวงมาลัย หรือบนเบาะรถเพื่อวัดสัญญาณชีพของผู้ขับขี่ และส่งข้อมูลกลับไปยังศูนย์ข้อมูล หากพบว่าสัญญาณชีพของผู้ขับขี่ผิดปกติ ระบบควบคุมอัตโนมัติก็จะทำงานแทน พร้อมกับส่งสัญญาณขอความช่วย
เหลือไปยังโรงพยาบาลในทันที
8. เทคโนโลยีเครื่องยนต์ 4 สูบ (Four-Cylinder)
เทคโนโลยีนี้จะทำงานร่วมกับเทอร์โบและมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อเพิ่มสมรรถนะของรถยนต์ขนาดเล็กที่มีความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมืองมากกว่ารถยนต์ขนาดใหญ่ให้มีสมรรถนะที่ล้ำกว่ารถยนต์ขนาดใหญ่ ก่อนที่จะเข้าสู่ยุครถพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ
9. ระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ (Real-time notification system)
ในอนาคตเมื่อเราล็อคอินเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตผ่านรถยนต์ของเราทางระบบ ไบโอเมตริก ระบบจะมีการแจ้งเตือนเรื่องราว หรือเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้นที่เราสนใจให้เราได้ทราบทันที เพื่อไม่ให้เราพลาดเรื่องราวเหตุการณ์สำคัญผ่านทางจอภาพแอคที่ฟบริเวณกระจกหน้ารถ
เทคโนโลยียานยนต์สุดล้ำที่กล่าวมาถือเป็นประโยชน์กับผู้ใช้รถอย่างมาก แต่การเดินทางที่ปลอดภัยที่สุดเราควรขับขี่ไม่ประมาท เคารพกฎจราจร และการออกเดินทางไกลอย่าลืมตรวจเช็คสภาพรถของคุณให้พร้อมใช้งาน
#เที่ยวนครสวรรค์ #ที่เที่ยวนครสวรรค์ #ค้นหาที่เที่ยวนครสวรรค์ #รีวิวที่เที่ยวนครสวรรค์ #คาเฟ่ที่เที่ยวนครสวรรค์
ที่เที่ยวนครสวรรค์แนะนำ รีวิวเที่ยวนครสวรรค์สไตล์ค็อกพิท
เที่ยวนครสวรรค์เมืองแห่งปากน้ำโพต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา ปิง วัง ยม น่าน ที่ไหลมารวมกันที่นี่ประตูสู่ภาคเหนือ ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่เมืองทางผ่านแต่ยังมีที่เที่ยวนครสวรรค์มากมายที่น่าสนใจไม่น้อยหน้าไปกว่าที่อื่นๆ เลย แถมที่เที่ยวนครสวรรค์ยังมีโลเคชั่น เด็ดๆ ถ่ายรูปปังๆ รอให้คุณมาเที่ยวนครสวรรค์อีกเพียบ หากใครที่ยังลังเลอยู่ว่าวันหยุดนี้จะไปเที่ยวที่ไหนดี เราขอแนะนำเที่ยวนครสวรรค์เลย เพราะทริปนี้เรารวมสถานที่เที่ยวนครสวรรค์ที่เช็กอินเด็ดๆ มาไว้ให้แล้วตามไปดูกันเลย สามารถดูที่เที่ยวนครสวรรค์ เพิ่มเติม ได้ที่บทความ “วันหยุดสุดชิล ชวนขับรถเที่ยวนครสวรรค์ เช็คอิน ถิ่นปากน้ำโพ”
เดินทางท่องเที่ยวบ่อยๆ ทุกอาทิตย์ สิ่งสำคัญก่อนออกเดินทางทุกครั้งก็คือการตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งาน สำหรับใครมาที่เที่ยวนครสวรรค์ตามรีวิว อยากตรวจเช็คสภาพรถก่อนเดินทางกลับหรือรถมีปัญหา แวะมาให้เราดูแลได้ที่ ศูนย์บริการ Cockpit วิริยะยางยนต์ ศูนย์ล้อ พิกัด : https://goo.gl/maps/buTuGnHXAS7dn3TR7 หรือสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 056-224331
มาเที่ยวต่างจังหวัดแบบนี้ก็หมดห่วงได้เลย เพราะศูนย์บริการ Cockpit เค้ามีครอบคลุมทั่วไทย ไว้ใจได้ทั้งบริการ และเรื่องราคาที่เป็นมิตร เพราะฉะนั้นมีปัญหาเรื่องรถก็เลี้ยวเข้า Cockpit ได้เลย
#เที่ยวนครสวรรค์ #ที่เที่ยวนครสวรรค์ #ค้นหาที่เที่ยวนครสวรรค์ #รีวิวที่เที่ยวนครสวรรค์ #คาเฟ่ที่เที่ยวนครสวรรค์
ออกซิเจนเซนเซอร์ (O2 Sensor) เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญในรถยนต์ของคุณ คอยทำหน้าที่วัดค่าระดับออกซิเจนที่หลงเหลือจากการเผาไหม้ในไอเสียของเครื่องยนต์เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงาน โดยทั่วไปแล้วจะมีอายุการใช้งานอยู่ระหว่าง 48,000 ถึง 160,000 กิโลเมตรโดยประมาณ แต่ถ้าหากออกซิเจนเซนเซอร์ (O2 Sensor) เสียหรือทำงานผิดปกติควรเปลี่ยนทันที โดยอาการที่บ่งบอกว่า เซ็นเซอร์ออกซิเจนรถยนต์เสียนั้น สามารถสังเกตได้จากอาการ ดังต่อไปนี้ สามารถติดตาม อ่านต่อได้ที่บทความ “อาการที่บ่งบอกว่า เซ็นเซอร์ออกซิเจนรถยนต์เสีย”
ที่ ค็อกพิท (Cockpit) เราเป็นศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร มีเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมช่างผู้ชำนาญงาน ที่จะช่วยดูแล ตรวจสภาพรถยนต์ เช็คระยะ ความปลอดภัย เบื้องต้น พร้อมตรวจสภาพรถยนต์ที่ครอบคลุมชิ้นส่วนและอะไหล่สำคัญ ที่จะทำให้ผู้ใช้บริการอุ่นใจ และมั่นใจทุกครั้งเมื่อนำรถมาเข้ารับบริการตรวจสภาพรถยนต์ ซึ่งเราจะให้บริการด้วยเวลาที่เหมาะสมจากบริการที่รวดเร็ว ราคาที่เหมาะสม และคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้มาใช้บริการ
#เที่ยวนครสวรรค์ #ที่เที่ยวนครสวรรค์ #ค้นหาที่เที่ยวนครสวรรค์ #รีวิวที่เที่ยวนครสวรรค์ #คาเฟ่ที่เที่ยวนครสวรรค์
ค้นหาศูนย์บริการใกล้บ้าน https://www.cockpit.co.th/stores
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แบบคนกันเองได้ที่ Call center 1369
#คุ้มครบไวอุ่นใจที่ค็อกพิท
"คุ้มครบไว อุ่นใจที่ค็อกพิท"
Copyright © 2024 Bridgestone Sales (Thailand) Co.,Ltd. All Right Reserved.